วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ประวัติบ้านสร้างแป้น


ประวัติบ้านสร้างแป้น

      ผู้จัดทำมีความประสงค์รวบรวมข้อมูลบ้านสร้างแป้นเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาโดยมีเจตคติที่ดีต่อชุมชนรักษ์ท้องถิ่นสืบสานต่อยอดรักษาประเพณีและวัฒนธรรมชุมชนบ้านสร้างแป้น เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการสืบค้นของชนรุ่นหลัง หากเนื้อหามีความบกพร่องผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ พร้อมน้อมรับคำแนะนำ เพื่อจะนำมาแก้ไขและปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ผู้จัดทำหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ได้ศึกษาเป็นอย่างดียิ่ง

     ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมจากภาพถ่ายจากกลุ่ม (Facebook บ้านสร้างแป้นหมู่1,12) ผมมองเห็นว่าภาพถ่ายสามารถนำมาสร้างเป็นระบบระเบียบและเรียบเรียงข้อมูลบันทึกความทรงจำประวัติศาตร์บ้านสร้างแป้น เพื่อให้ชนรุ่นหลังมีจิตสำนึกรักษ์ท้องถิ่นอนุรักษ์สถานที่สาธารณะประโยชน์ รักษาจารีตประเพณีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมของชุมชนบ้านสร้างแป้นให้คงอยู่สืบไป
จัดทำโดย  
โจ้   
                   
ตำนานเรื่องเล่า  
      
       บ้านสร้างแป้นมีตำนานเล่าต่อกันมาว่ามีพระสงฆ์ชื่อหลวงปู่จันทร์ขี่ช้างมาจากบ้านโนนลาน(บ้านลานปัจจุบัน)ผ่านเข้ามาในเขตหมู่บ้านสร้างแป้นออกไปทางทิศตะวันตกด้วยระยะทางไกลช้างหิวน้ำ หลวงปู่จันทร์จึงได้จูงลงกินน้ำลงในส่าง เหตุไม่คาดคิดช้างได้เกิดติดดุลหรือโคลนดินดูด ช้างได้อ่อนเเรงตายพร้อมกับหลวงปู่จันทร์ได้มรณภาพลงในส่าง ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงปู่จันทร์ ได้ร่วมกันตั้งศาลขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกและกราบไหว้บูชา เรียกว่า"ดอนปู่จันทร์" การตั้งชื่อโดยอาศัยระบบนิเวศเพราะมีลักษณะเป็นป่าดอน เมื่อระยะเวลาผ่านไปกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่และมีผักหลอดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกหนองน้ำนี้ว่า "หนองผักหลอด" หนองน้ำกลายเป็นแหล่งธรรมชาติอุดมสมบรูณ์ล่อเลี้ยงชาวบ้านในด้านการเลี้ยงชีพ การเกษตร และเลี้ยงสัตว์ จนถึงปัจจุบัน

สัมภาษณ์ พ่อบุญจันทร์   สุทธิ , 2556  
เรียบเรียงข้อมูล   นายสิทธิศักดิ   กุลวงค์



ประวัติความเป็นมา

        เดิมมีบ้านเก่าแก่แห่งหนึ่ง ตั้งมาพร้อมเมืองชนบท และเมืองเพีย คือบ้านดอนมะค่า อยู่ทางทิศตะวันออกของหนองใหญ่ โดยมีหนองน้ำล้อมรอบ ปัจจุบันเป็นดอนปู่ตาหรือดอนแก้ว ต่อมาชาวบ้านได้ขยายชุมชน ไปสร้างบ้านเรือนสมทบกันชาวร้อยเอ็ดและชาวพยัคภูมิพิสัย กลุ่มเดียวกันกับพระอาจารย์โค้งและชาวบ้านที่มาสร้างบ้านลาน ชาวบ้านดอนมะค่าสันนิฐานว่าได้เกิดโรคระบาดไข้ทรพิษหรือโรคฟีดาษ ขึ้นที่ในหมู่บ้านในขณะนั้น เป็นเหตุให้ชาวบ้านอพยพหนีมาตั้งบ้านเรือนใหม่ ในเขตบ้านสร้างแป้นในปัจจุบัน 

        บ้านสร้างแป้นสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2335  โดยคณะครอบครัวที่อพยพมาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่บ้านสร้างแป้น ได้แก่ ครอบครัวของนายอวย นางพา น้อยตำแย, นายหลาย นางพูน ไพรวงษา, นายชาม นางผาง จำปา, นายทำ นางมน พืชผักหวาน, และครอบครัวอื่นๆ รวม 14 ครอบครัว ตั้งหมู่บ้านใหม่ขึ้นมา และตกลงกันตั้งชื่อว่า"บ้านสร้างแป้นหรือบ้านส่างแป้น"

        คำว่าสร้างแป้นน่าจะตรงกับคำว่า ส่าง ในภาษาอีสาน หมายถึงบ่อน้ำที่มีลักษณะไหลซึม โดยใช้ปีกไม้หรือแป้นตีเป็นคอกสี่เหลี่ยมกันไม่ให้ดินพัง บ่อน้ำในลักษณะนี้ภาษาอีสานเรียกว่าส่างแซง แต่ในที่นี้เรียกว่าสร้างแป้น ชาวบ้านในอดีตอาศัยน้ำจากส่างในการบริโภคเนื่องจากน้ำที่ไหลซึมออกมานั้นใสสะอาด ด้วยเหตุนี้คำว่า สร้าง จึงมีความพิเศษสามารถสื่อความหมายได้ 2 อย่าง ความหมายแรก หมายถึงบ่อน้ำภาษาถิ่นเรียกว่า ''ส่าง'' ความหมายที่สองหมายถึง"ช้าง" ภาษาถิ่นเรียกว่า ''ส้าง'' ดังนั้นสองคำที่ดังกล่าวมา จึงเขียนออกเป็นสร้าง จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านสร้างแป้น 


อ้างอิงบุคคลจากภาพ จากซ้ายแถวที่ 2  นั่งที่ 3  พ่อ ทอง พืชผักหวาน 

ลำดับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในหมู่บ้าน

      พ.ศ. 2343  บ้านสร้างแป้นอยู่ภายใต้การปกครองตำบทชนบถ (ปัจจุบันอำเภอชนบท)มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือ นายอำ น้อยตำแย 

      ใน พ.ศ.2350 ชาวบ้านสร้างแป้นได้ขยับขยายพื้นที่ทำกินขึ้นไปทางทิศเหนือ อยู่ตามไร่นาของตน รวม 7- 8 ครอบครัว  จนเติบโตขึ้นเป็นหมู่บ้านโดยตั้งชื่อว่าบ้านเหล่าผักหวาน สาเหตุที่เรียกว่าบ้านเหล่าผักหวาน เพราะจากการสันนิฐานว่าบริเวณนั้นเต็มไปด้วยป่าผักหวาน ถาษาอีสานเรียกว่าเหล่าหรือป่าเลยเรียกชื่อบ้านเหล่าผักหวานตามนั้น ต่อมาเหลือเพียง "บ้านผักหวาน" จนถึงปัจจุบัน 

       พ.ศ. 2457  ราชการได้มี พ.ร.บ การปกครองท้องที่ จัดการให้เป็นหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอเมืองชนบถ(ชนบถ) ได้รับการแต่งตั้งเป็นอำเภอชนบท บ้านแคนเหนือจึงได้เป็นตำบลแคนเหนือขึ้นครั้งแรก บ้านสร้างแป้นได้เข้าร่วมเขตปกครองของตำบลแคนเหนือ ตำบลเเคนเหนือมี ขุนมะที นันทกิจ เป็นกำนันคนเเรกและมียศเป็น ขุนแคนเหนือ   ต่อมาตำบลแคนเหนือและตำบลเปือยน้อยแยกตัวออกมาจากอำเภอชนบท ไปขึ้นกับอำเภอพล

        เมื่อ พ.ศ. 2471  บ้านไผ่ได้รับฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอบ้านไผ่ ได้รวมเอาตำบลต่างๆคือ ตำบลบ้านเกิ้ง ตำบลบ้านเป้า ตำบลเมืองเพียแยกมาจากอำเภอชนบท เนื่องจากไฟไหม้ที่ว่าการอำเภอชนบทในตอนนั้น  ต่อมาตำบลเเคนเหนือและตำบลเปือยน้อยแยกมาจากอำเภอพล มาขึ้นกับกิ่งอำเภอบ้านไผ่ บ้านสร้างแป้นก็ยังอยู่ในเขตปกครองของตำบลเเคนเหนือเหมือนเดิม 

     ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ 2516 ทางราชการได้ยกฐานะบ้านลานขึ้นเป็นตำบลบ้านลาน โดยมีประกาศ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2516 บ้านสร้างแป้นจึงแยกออกจากตำบลบ้านแคนเหนือ มาขึ้นตำบลบ้านลานตั้งแต่นั้นมา

      เมื่อ  พ.ศ.2527 บ้านสร้างแป้นมีประชากรเพิ่มขึ้น จึงได้ขอแยกหมู่บ้านออกเป็น หมู่  คือ หมู่ และหมู่ 12  โดยหมู่ 12 แยกออกจากหมู่ 1 
อ้างอิงจากหนังสือสืบฮอยบ้านตำนานเมืองอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น,โรงพิมพ์นันทศิลป์.2547

 
ที่มา. FB ลูกข้าวเหนียว  น้องแจ็คพ๊อต

สภาพปัจจุบัน
      
      เมื่อความเจริญเข้ามาถึงหมู่บ้านสร้างแป้นได้มีงบประมาณจากทางรัฐบาล โดยทรัพยากรน้ำภาค 4 จังหวัดขอนแก่น กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองผักหลอด งบประมาณ 29,745,447.00 บาท ทำการขุดลอกเมื่อ วันที่ กรฏาคม พ.ศ 2558 หลังจากทำการขุกลอกปรับภูมิทัศน์หนองผักหลอดได้เพียง 12 วัน วันที่ 15 กรฏาคม พ.ศ.2558 ทางเจ้าหน้าที่รับเหมาก่อสร้างได้เเจ้งผู้ใหญ่บ้านสร้างแป้นว่า ขุดพบกระดูกสัตว์ปริศนาขนาดใหญ่หลายชิ้น ชาวบ้านหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากระดูกช้าง ทำให้เชื่อว่าตำนานนั้นมีอยู่จริง ชาวบ้านได้รวบรวมกระดูกช้างที่ศาลปู่ตา พร้อมกับสร้างรูปปั้นช้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่ชนรุ่นหลัง 
เรียบเรียงโดย นายสิทธิศักดิ์ กุลวงค์

หมายเหตุ : จากการขุดลอกหนองผักหลอด พบเพียงกระดูกช้าง เเต่ไม่พบกระดูกหลวงปู่จันทร์ ดังนั่นจึงสันนิฐานได้ว่า ชาวบ้านสร้างแป้นในสมัยนั้นน่าจะนำสังขาล(ศพ)หลวงปู่จันทร์ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตามจารีตและประเพณี 
สันนิฐานโดย : นายสิทธิศักดิ์ กุลวงค์

ที่มา  FB : บ้านสร้างแป้น ม.1,12


บ้านสร้างแป้น แบ่งออกเป็น 2 หมู่ได้แก่ หมู่ 1 และ 12 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ว่าการอำเภอบ้านไผ่ ห่างออกมาประมาณ 10 กิโลเมตร ตามเส้นทางหนองน้ำใส- บ้านลาน มีเนื้อที่ประมาณ 2187.5 ไร่ 

ลักษณะทางภูมิศาสตร์            
       ทิศเหนือ           จรดเขตพื้นที่บ้านผักหวาน
       ทิศใต้               จรดเขตพื้นที่บ้านโคกโก 
       ทิศตะวันออก     จรดเขตพื้นที่บ้านลาน 
       ทิศตะวันตก       จรดพื้นที่บ้านดอนนาแพง

ลักษณะทางกายภาพ 
      ลักษณะทางกายภาพของชุมชนบ้านสร้างแป้น การตั้งถิ่นฐานในเขตพื้นที่ราบกว้างขวาง มีลำคลองและหนองน้ำในบริเวณใกล้เคียง พื้นที่ดังกล่าวเหมาะแก่การดำรงชีวิต นอกจากนั้นยังสะดวกในการหาอาหารจำพวกสัตว์และพืช ที่มีอยู่ในน้ำและบนบก

ภาพถ่ายดาวเทียม

ประชากร
      บ้านสร้างแป้นมีประมาณ 300 หลังคาเรือน จำนวนประชากรทั้งหมดเป็นชาย700 คน หญิง 800คน รวม 1500 คน สำรวจเมื่อประมาณ พ.ศ.2547 

การประกอบอาชีพ 
      ชาวบ้านสร้างแป้นประกอบอาชีพการเกษตร ส่วนใหญ่ ทำนาข้าว ไร่อ้อย ไร่มันสำประหลัง แลัรับจ้างทั่วไป

การศึกษา 
       เดิมชาวบ้านสร้างแป้นเรียนที่วัด เปิดสอนใน.พ.ศ 2462 ต่อมาชุมชนบ้านสร้างแป้นมีโรงเรียนประจำหมู่บ้านชื่อ โรงเรียนบ้านสร้างแป้นดอนนาแพง ก่อสร้างเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2481 โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา

ภาพกิจกรรมวันเด็ก พ.ศ.2534
โรงเรียนบ้านสร้างแป้นดอนนาแพง

สาธารณสุข
บ้านสร้างแป้นมีสถานีอนามัยบ้านสร้างแป้นประจำหมู่บ้าน ต่อมาทางราชการเปลี่ยนชื่อจากสถานีอนามัยเป็น ''โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านสร้างแป้น'' โดยมี 4 หมู่บ้านที่ใช้บริการได้แก่ บ้านสร้างแป้น บ้านผักหวาน บ้าดอนนาแพง บ้านโนนสว่าง
รพ.สต.บ้านสร้างแป้น

ศาสนาและความแชื่อ
ศาสนา
    1.วัด เดิมวัดบ้านสร้างแป้น ตั้งอยู่บริเวณต้นขามใหญ่ ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน จากนั้นย้ายวัดมาทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านในปัจจุบัน เลยเป็นที่มาของชื่อคุ้มซอย ตามที่เรียกกันว่า "คุ้มวัดเก่า"

      ชาวบ้านสร้างแป้นได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นมา เมื่อ พ.ศ 2437 (125ปี ) ชื่อ "วัดจำปา" ประชาชนยังมีความเชื่อความศรัทธาในหลักพระพุทธศาสนาอยู่ดี ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างอุโบสถหลังเเรก ภาษาถิ่นเรียกว่า สิม 

      เมื่อประมาณ พ.ศ. 2536 ชาวบ้านสร้างแป้นได้ระดมทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่ แทนหลังเดิม เนื่องจากสถานที่คับแคบไม่สามารถรองรับชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมศาสนาได้ 

      ต่อมา พ.ศ. 2540 ชาวบ้านสร้างแป้นได้ระดมทุนโดยจัดตั้งผ้าป่าสามัคคี เพื่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ ทดแทนหลังเดิมที่สร้างด้วยไม้เพราะมีการทรุดโทรม เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางสงฆ์และฆราวาส

   2.พระพุทธรูปประจำหมู่บ้าน คือ หลวงปู่ฮัง ประวัติหลวงปู่ฮังตามคำบอกเล่ากล่าวว่าเป็นพระพุทธรูปทำจากไม้ มีอายุประมาณ 107 ปี หลวงปู่ฮังเป็นพระคู่บ้านเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้านสร้างแป้น ปัจจุบันหลวงปู่ฮังประดิษฐาน ณ วิหาร วัดจำปาบ้านสร้างเเป้น
       
      เจ้าอาวาสวัดจำปา โดยเรียงลำดับ ดังนี้
             1.หลวงพ่อคำสอน
             2.พระครูพิศาลจันโทภาส [พระมหาปิยณัฐ สิริจนฺโท] พศ.2551- (ปัจจุบัน)

การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนบ้านสร้างแป้น 
ที่มา : FB : Poonoi  Nilsomboon


อุโบสถหลังเก่า (สิม)

อุโบสถหลังปัจจุบัน

หลวงปู่ฮัง
    
ความเชื่อ : ชาวบ้านยังมีความเชื่อเรื่องไสยศาตร์ และมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์ดอนปู่ตา เช่น หากท่านใดต้องการ เลื่อนตำแหน่งทางด้านอาชีพ หน้าที่ การงาน ก็จะไปบนบาน บอกกล่าวดอนปู่ตา เมื่อสมปราถนาแล้ว โดยสิ่งที่นำมาแก้บนได้แก่ ช้าง ม้า และผ้าเจ็ดสี 

     1.ปู่ตาดอนแก้ว ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกหมู่บ้าน เป็นศาลประจำหมู่บ้านสถานที่กราบไหว้สักการะบูชา พร้อมกันนั้นมีต้นสำโรงใหญ่อายุราว 100 ปี ก่อนลงทำนาชาวบ้านมีพิธีกรรมเรียกว่าเลี้ยงปู่ตาเป็นการปลุกขวัญกำลังใจในการทำนาพร้อมกับเสี่ยงทายบั้งไฟและลิ้นไก่ต้ม ซึ่งระยะเวลาใกล้เคียงกับพิธีพระนังคัลแรกนาขวัญในท้องสนามหลวง

    2.ดอนปู่จันทร์ หรือดอนปู่ตาหนองผักหลอด สาเหตุที่เรียกว่าดอน เพราะระบบนิเวศมีลักษณะเป็นป่าดอน ชาวบ้านจึงเรียกว่า ดอนปู่จันทร์ ต่อมาเหลือเพียง ดอนปู่ตาตาหนองผักหลอด เป็นศาลประจำหมู่บ้านสร้างแป้น ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ติดกับริมหนองผักหลอด

การสักการะบูชา 
     การบูชาหลวงปู่ฮัง, หลวงปู่ตาดอนแก้ว, และดอนปู่ตาหลองผักหลอด นั้นจัดขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี นำโดยพ่อจ้ำ สิ่งของที่นำมาบูชาได้แก่ ดอกไม้ ธูป เทียน น้ำอบน้ำหอม ผ้าเจ็ดสี ช้างม้า วัว ควาย 

ดอนปู่ตาดอนแก้ว

ดอนปู่จันทร์ หนองผักหลอด
ถ่ายภาพโดย FB : Aekkapong Nilsomboon

*****************************************************
ผู้ร่วมสืบค้นประวัติ 

    1.นายจำปี   ทิทา       อายุ 72 ปี 
    2.นายคำดี   ไสวงาม  อายุ 52 ปี
    3.นายเจริญ  สมีเเจ้ง   อายุ 63 ปี   
                      
อ้างอิงจากหนังสือสืบฮอยบ้านตำนานเมืองอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น,โรงพิมพ์นันทศิลป์.2547

อ้างอิง
สัมภาษณ์ นายบุญจันทร์ สุทธิ พศ.2556
หนังสือสืบฮอยบ้าน ตำนานเมือง ประวัติอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น,โรงพิมพ์นันทศิลป์.2547


*******************************************





วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563

ประเพณีวัฒนธรรมและดำเนินชีวิต

ประเพณีวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิต


1.ประเพณี  

ชุมชนบ้านสร้างแป้นสืบทอดมาประเพณีตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยผู้เขียนขอยกเอาประประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ในชุมชนมี ดังนี้

      1.1 ประเพณีทำบุญบ้าน ประเพณีบุญบ้านหรือบุญเบิกบ้าน มักจะเห็นในช่วงเดือนเจ็ด นิมนต์พระสงฆ์ 7-8 รูป ตักบาตรในตอนเช้า พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตราหารเช้า พระสงฆ์พรมน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคล นำกรวดทรายจากการทำพิธีแจกจ่ายชาวบ้านเพื่อไปว่านรอบบ้านปัดสิ่งชั่วร้าย 
 
ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.

      1.2. ประเพณีบุญข้าวเฉียบ-ข้าวจี่ วันตรงกับเพ็ญแรม1ค่ำเดือน3 ข้าวจี่ เป็นการทำบุญในวันมาฆบูชา ข้าวเฉียบทำจากข้าวเหนียวนึ่งตำละเอียดด้วยครกกระเดื่องโดยมีส่วนผสมกับรากต้นกระโหม ภาษาถิ่นเรียกว่าเครือตดหมาน้ำมันหมูและไข่แดงต้มสุก ผ่านการแปรรูปเป็นแผ่นแล้วย่างไฟให้สุก ส่วนข้าวจี่คือข้าวเหนียวย่างไฟแล้วทาด้วยไข่ สีเหลืองทอง 


ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.

      1.3. ประเพณีเลี้ยงปู่ตา จัดขึ้นหลังจากพิธีพระนังคลันแรกนาขวัญในท้องสนามหลวง ตรงกับแรม (4 ค่ำเดือน 6 ) หรือ (ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 6)ซึ่งมีความเชื่อคล้ายกันกับประเพณีเลี้ยงปู่ตา เป็นการปลุกขวัญกำลังใจในการทำนา โดยนิมนต์พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และถวายเพล พ่อจ้ำทำการเสี่ยงทายจากลิ้นไก่และบั้งไฟ 
ขอบคุณภาพจาก / Mang jizon
      
1.4. ประเพณีเลี้ยงนา การเลี้ยงนาหรือเลี้ยงผีตาแฮก ชาวบ้านสร้างแป้นมีความเชื่อว่าผีตาแฮกเป็นผู้รักษาพื้นนาให้อุดมสมบรูณ์ เพื่อให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มาก การเลี้ยงนานั้น มีของสำคัญดังนี้  ข้าวเหนียว ไก่ต้มสุก เหล้าขาว 1 ขวด ดอกไม้ ธูป เทียน บุหรี่ หมาก พลู กล้วย และอาหารประเภทของหวาน การเลี้ยงนาจัดขึ้น2ครั้ง ในเดือนหกก่อนการลงนา เพื่อบอกกล่าวเมื่อถึงฤดูทำนา และหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต.  

      1.5. ประเพณีแห่ดอกพยอม ประเพณีแห่ดอกพยอม เป็นความเชื่อดั้งเดิมของชุมชนบ้านสร้างแป้นสืบทอดกันมาตั้งเเต่บรรพบุรุษ(ภาษาถิ่นเรียกว่า"แห่ดอกกะยอม") จัดขึ้นในเดือน 3 ในฤดูดอกพยอมผลิดอก ก่อนวันมาฆบูชาหนึ่งวัน ใกล้เวลาค่ำพ่อจ้ำประกาศเชิญชวนชาวบ้าน พร้อมกับตีฆ้องบอกเป็นสัญญาณในการรวมตัว แล้วออกไปยังต้นพยอมตามท้องนา พ่อจ้ำทำพิธีขอดอกพยอมตามคติความเชื่อ ดอกไม้5คู่ เงิน5 บาท หรือขันต์ 5 เมื่อเก็บดอกพยอมได้ครบทุกคนแล้วเดินทางกลับตีฆ้องเป็นระยะ จังหวะเดียวกันพ่อจ้ำจะร้องเฮอะเฮอะสองครั้ง จากนั้นคนในขบวนแห่ร้องฮิ้วตอบรับ เมื่อถึงวัดแห่รอบศาลา3รอบ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พ่อจ้ำถวายดอกพยอมเป็นอันเสร็จพิธี 


 
ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.

      1.6. ประเพณีทอดเทียน ชุมชนบ้านสร้างแป้นจัดประเพณีทอดเทียนในช่วงเข้าพรรษา ประเพณีทอดเทียน (ภาษาถิ่นเรียกว่าทอดเทียนโฮม) เป็นประเพณีตามฮีต 12 ครอง 14 ของชาวอีสาน อดีตไม่มีไฟฟ้าใช้ชาวบ้านมักจะมีการหล่อเทียนพรรษา(ทอดเทียน) เพื่อถวายพระใช้ในการจำพรรษาของพระสงฆ์ในการทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น ปัจจุบันไฟฟ้าเข้ามามีบทบาท การหล่อเทียนจึงไม่ค่อยเห็น พุทธศาสนิกชนมักจะถวายหลอดไฟแทนการถวายเทียนเป็นการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย 

      1.7. ประเพณีแห่ข้าวพันก้อน(ออกพรรษา) ชาวบ้านสร้างแป้นจัดขึ้นในช่วงวันออกพรรษา 

      1.8. ประเพณีสรงน้ำดอนปู่ตา (สงกรานต์) ประเพณีสรงน้ำดอนปู่ตา ตรงกับ วันที่ 15 เมษายน หรือเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี นำโดยพ่อจ้ำ ชาวบ้านสร้างแป้นและชาวบ้านดอนนาแพง 
ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.

1.9 ประเพณีสู่ขวัญข้าว ชาวบ้านสร้างแป้น มีประเพณีสู่ขวัญข้าวสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลังฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ผู้นำชาวบ้านสร้างแป้นจะประกาศบอกลูกบ้าน ให้เตรียมข้าวเปลือกจากบ้านมารวมกันที่ลานวัด ตามจิตศรัทธาของแต่ละบุคคล เพื่อทำพิธีสู่ขวัญข้าว โดยการสร้างขวัญกำลังใจกับชาวนา และเป็นการเคารพบูชาพระเเม่โพสพ ชาวบ้านสร้างแป้นยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพระเเม่โพสพ เพื่อให้ข้าวอุดมสมบรูณ์และได้ผลผลิตทุกปี 


ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.
 
1.10 ประเพณีทอดกฐิน ชุมชนบ้านสร้างแป้นมีความเชื่อว่า ประเพณีทอดกฐินเป็นบุญที่มีอานิสงฆ์อย่างแรง เพราะปีหนึ่งทำได้ครั้งเดียว และยังเป็นการบอกบุญแก่ญาติมิตรให้มาร่วมทำบุญทำกุศลในครั้งนี้  

  

ประเพณีทอดกฐิน 
ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.


2.วัฒนธรรม 

ชุมชนบ้านสร้างแป้นมีวัฒนธรรมอันดีงามสืบทอดกันมาตั้งเเต่บรรพบุรษ โดยผู้เขียนยกเอาวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่พบในชุมชนบ้านสร้างแป้นมีดังนี้ 

      2.1. วัฒนธรรมการร้องสรภัญญะ  
การร้องสรภัญญะเป็นทำนองสวดฉันท์ เป็นทำนองแบบสังโยค สวดเป็นจังหวะหยุดตามรูปประโยคฉันทลักษณ์มักใช้สวดบทบูชาพระรัตนตรัย เนื้อหาส่วนใหญ่การร้องจะเกี่ยวพันธ์กับวิถีชาวพุทธศาสนา และชีวิตประวันของชาวอีสาน ซึ่งจะสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไว้ในบทกลอนสรภัญญะ เช่น กลอนนางมัทรี กลอนถวายพระพร ร.9 และกลอนค่าน้ำนม กลอนพระคุณแม่ เป็นต้น  
การประกวดร้องสรภัญญะ  อบต.บ้านลาน

      2.2. วัฒนธรรมการฟ้อนรำ 
การฟ้อนรำพบได้ทุกภาคของไทยเป็นศิลปะพื้นบ้าน การฟ้อนรำกล่าวได้ว่าเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงาม ที่มีลักษณะเฉพาะ การแต่งกาย จังหวะ ลีลา ท่าทางการฟ้อนรำเพลงดนตรีที่ใช้ประกอบมักจะเป็นดนตรีทางภาคอีสาน ชุมชนบ้านสร้างแป้นพบการฟ้อนรำเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น ฟ้อนงานบุญ ฟ้อนรำหน้านาค รำบวงสวง รำบายศรีสู่ขวัญ รำแก้บน และบุญบั้งไฟหรือที่เรียกว่าการเซิ้งบั้งไฟ โดยจะมีวงมโหรี วงกลองยาวเป็นต้น ทั้งนี้การฟ้อนรำยังมีคติความเชื่อเกี่ยวกับการรักษาโรค ป่วย ไข้ เรียกว่ารำผีฟ้า 


ขอบคุณภาพจาก / Yossra Stye Freedomlife.


      2.3. วัฒนธรรมขนทรายเข้าวัด การขนทรายเข้าวัดในชุมชนบ้านสร้างแป้น พบได้ในเทศกาลสงกรานต์ โดยคติความเชื่อการขนทรายเข้าวัดจะได้บุญผลาอานิสงฆ์เพิ่มม่กขึ้น 

      2.4. วัฒนธรรมการผูกข้อมือ  การผูกข้อมือพบทั่วไปในเขตภูมิภาคอีสาน เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน การผูกข้อมือเกิดขึ้นในงานพิธีต่างๆ เช่น งานบุญเบิกบ้าน งานเเต่ง งานบวช บายศรีสู่ขวัญ งานรับราชการ งานขึ้นบ้านใหม่ และการผูกเสี่ยวพบได้ในเขตจังหวัดขอนแก่น การผูกข้อมือนั้นเป็นความเชื่ออีกอย่างนึ่งเพื่อให้อยู่เย็นเป็นสุข อายุยืนยาว แคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติภัยและภูตผีปีศาจ

      2.5. วัฒนธรรมการห่อข้าวต้ม การห่อข้าวต้มของชาวบ้านสร้างแป้นสืบทอดกันมา การห่อข้าวต้มเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น บุญสาทเดือนสิบ งานทำบุญ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่เป็นต้น โดยชาวบ้านนิยมห่อข้าวต้มทำ 3 แบบได้แก่ ข้าวต้มเม็ด ข้าวต้มแหลก และข้าวต้มผัด


 




3.วิถีชีวิต

วิถีชีวิตคนในชุมชนบ้านสร้างแป้นนั้น มีลักษณะเรียบง่าย  โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม ด้านดนตรี ด้านการเลี้ยงสัตว์ ด้านหัตถกรรม   ดังนี้
   3.1.ด้านการเกษตรกรรม ชาวบ้านสร้างแป้นประกอบอาชีพทางการเกษตร พืชส่วนใหญ่เป็นข้าว อ้อย มันสำปะหลัง มันเทศ และผักสวนครัว

ภาพการทำนา

3.2.ด้านการดนตรี  ชาวบ้านสร้างแป้นมีภูมิปัญญาทางด้านเครื่องดนตรีอีสาน โดยจำแนกประเภทเครื่องดนตรีได้ 3 ประเภทดังนี้ 
       1. เครื่องดนตรีประเภทดีด พิณ ผู้เชี่ยวชาญ พ่อหนา  พืชผักหวาน
       2. เครื่องดนตรีประเภทตี กลองยาว ผู้เชี่ยวชาญ พ่อสาย ภาวะโคตร 
       3. เครื่องดนตรีประเภทเป่า แคน ผู้เชี่ยวชาญ พ่อสังวร จ่าบาล
       
         อดีตบ้านสร้างแป้นมีเครื่องดนตรีประจำหมู่บ้าน คือกลองยาวเห็นได้ในช่วงออกพรรษาจะมีการแห่ผ้าป่าโดยมีวงกลองยาวด้านหน้าขบวน ปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเครื่องดนตรีและประยุกต์กับดนตรีสากล กลายเป็นวงกลองยาวประยุกต์ หรือเรียกว่า " วงมโหรี

ภาพวงกลองยาว
ขอบคุณภาพ : นายสุธรรม ละครชัย

วงกลองยาวประยุกต์


3.ด้านการเลี้ยงสัตว์  ชาวบ้านสร้างแป้นนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริม สัตว์ที่พบ ได้ แก่ วัว ควาย หมู ไก่ และปลา ส่วนใหญ่เลี้ยงไว้เพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม  




ภาพการเลี้ยงสัตว์


3.4.ด้านศิลปหัตถกรรม ชาวบ้านสร้างแป้นมีภูมิปัญญาทางด้านฝีมือศิลปหัตถกรรม โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องจักสาน มีดังนี้ 
      1. สิ่งทอ ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ผ้าห่มฝ้าย ผ้าโสล่ง และเสื่อต้นกก การทอโดยนิยมทำในช่วงข้าวตั้งท้องและหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวข้าว 
 
ภาพการเตรียมย้อมไหม

ภาพการทอผ้าขาวม้า

ภาพการทอเสื่อต้นกก

  2. เครื่องจักสาน  ชาวบ้านสร้างแป้นนับว่ามีฝีมือด้านการจักสาน เครื่องจกรสานที่พบ ได้แก่ ตระกร้า กระติบข้าว กระด้ง กระจาดใส่ตัวไหม เครื่องดักจับสัตว์ สวิง ค้อง ไซร์ ลอบ แห ตาข่าย สุ่มไก่ คอบปากวัว ฝาบ้าน  



ภาพการจักรสาน



*************************************************